ความดัน
ความดัน
โลหิตสูง เป็นสาเหตุสำคัญของหลายๆ โรคอันตรายที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคไต โรคหัวใจ  โรคหลอดเลือดสมอง และโรคอื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่อันตรายจนถึงชีวิตได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามความดันโลหิตสามารถตรวจพบได้ง่ายๆ จากการวัดความดันเมื่อเราเข้ารับการตรวจร่างกาย หรือตรวจสุขภาพประจำปี ดังนั้นหากเราให้ความสำคัญกับความดันโลหิตอยู่เสมอ ก็อาจจะช่วยป้องกันเราจากโรคอันตรายเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที

มีเรื่องอะไรบ้างที่เราควรทราบเกี่ยวกับความดันโลหิต มาดูรายละเอียดกัน

  1. ความดันโลหิต ประกอบด้วยค่าตัวเลข จำนวน 2 ค่า ดังนี้
  • ค่าบน เป็นความดันช่วงหัวใจบีบ
  • ค่าล่าง เป็นความดันช่วงหัวใจคลายตัวค่าความดันโลหิตที่เหมาะสม คือ ค่าบนไม่เกิน 120 และค่าล่างไม่เกิน 80 เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีความดันอยู่ที่ 130/80 ขึ้นไป แสดงว่าอยู่ในเกณฑ์ความดันโลหิตสูงเรียบร้อยแล้ว
  1. หากความดันโลหิตสูงไม่เกิน 10 มิลลิเมตรปรอท จากค่าปกติ เช่น 130/90 ส่วนใหญ่แพทย์ อาจแนะนำให้กลับไปปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน จะยังไม่ถึงกับให้เข้ารับการรักษาอย่างเป็นทางการ เว้นแต่จะมีอาการที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างชัดเจน
  1. หากมีความดันโลหิตสูงเพียงเล็กน้อย ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่นลดทานเค็ม ทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงให้มากขึ้น เช่น ลูกเกด  ลูกพรุน เมล็ดทานตะวัน กล้วย อินทผาลัม ผักโขม แซลมอน เห็ด และส้ม ลดน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา เว้นแต่ทำทุกอย่างแล้ว ความดันโลหิตก็ยังไม่ลดลง
  1. หากความดันโลหิตค่าบนมากกว่า 140 ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ แต่หากน้อยกว่านี้ อาจจะยังไม่แนะนำให้เข้ารับการรักษาจากแพทย์อย่างจริงจัง เพราะนอกจากจะสามารถลดความดันโลหิตลงได้ด้วยตัวเองจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตตามที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว การรักษาด้วยยาอาจส่งผลข้างเคียงอื่นๆ ได้ เช่น เวียนหัว หน้ามืด หรือทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของไตลดลง เว้นแต่คุณจะมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น เป็นโรคเบาหวาน สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือมีประวัติสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคหัวใจมาก่อนควรปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เริ่มต้น
  1. การวัดความดันโลหิตอาจทำได้หลายครั้ง ในเวลาที่ต่างกัน เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัย หาค่าความดันโลหิตที่แน่นอนได้
  1. วิธีที่ทำให้ได้ค่าความดันโลหิตที่ถูกต้องที่สุด คือ ให้นั่งนิ่งๆ อยู่ในห้องเฉยๆ กับเก้าอี้ ยืดหลังตรงพิงพนัก งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือกาแฟ ก่อนเข้ารับการตรวจอย่างน้อย 6 ชั่วโมง นั่งอยู่เฉยๆ อย่างน้อย 5 นาที และอาจทำการวัดค่าความดันโลหิตซ้ำครั้งที่ 2 หลังจากผ่านครั้งแรกไปอย่างน้อย 5 นาที หากมีการวัดซ้ำครั้งที่ 3 ควรนำมาหาค่าเฉลี่ยอีกครั้ง เพื่อให้ได้เป็นค่าความดันที่ถูกต้องและแม่นยำที่สุด
  1. อาหารที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ดี ได้แก่ ผัก ผลไม้สด ถั่ว อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวน้อย และอาหารที่มีโพแทสเซียม สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้มากกว่า 11 มิลลิเมตรปรอท ในขณะที่การออกกำลังกายเป็นประจำก็จะช่วยลดความดันโลหิตได้อีก 4 มิลลิเมตรปรอท หากทำควบคู่กันจะช่วยลดความดันโลหิตได้มากขึ้น
  1. ขนาดของสายรัดแขนก็มีส่วนทำให้ค่าความดันโลหิตมีความคลาดเคลื่อนได้เช่นกัน เช่น หากคนที่มีต้นแขนใหญ่ ใช้สายรัดแขนวัดความดันขนาดเล็ก ค่าความดันที่ได้อาจจะสูงเกินจริง ดังนั้นควรเลือกสายรัดแขนที่เหมาะสามกับขนาดของแขนตัวเอง
  1. ใครที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิต หรืออยากควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติอยู่เสมอ สามารถหาซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตมาใช้ที่บ้านเองได้ ปัจจุบันมีจำหน่ายแล้วตามร้านขายยาใกล้บ้าน หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป
  1. หากเข้ารับการรักษากับแพทย์ด้วยการใช้ยา ยังสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตอย่างที่แนะนำไปข้างต้นได้อีกเช่นกัน และหากระหว่างการทานยาตัวใดตัวหนึ่งอยู่ แล้วมีอาการข้างเคียงที่รู้สึกได้ ควรรีบพบแพทย์ที่ทำการรักษาทันที เพื่อที่แพทย์อาจจะทำการเปลี่ยนตัวยาใหม่ที่เหมาะสมกับเรามากขึ้น

หากเราสามารถควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้แล้ว นั่นหมายถึง เราสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอันตรายหลายๆ โรคได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากต้องการมีสุขภาพที่ดี ควรเริ่มต้นด้วยการรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติกันดีกว่าค่ะ

ขอขอบคุณ
ข้อมูล : The Inquirer,คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ภาพ : iStock
บทความโดย Jurairat N.
เรียบเรียงโดย คอร์ดี้ไทย(ถั่งเช่า ม.เกษตร )

“ความดันโลหิตสูง” มหันตภัยเงียบสุดอันตราย